รักษามะเร็งแบบบูรณาการ

“มะเร็ง” โรคร้ายยอดฮิตที่ยังคงมีอัตราของผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี และเมื่อแพทย์ลงความเห็นอย่างแน่ชัดแล้วว่าคนไข้เป็นมะเร็งแน่นอน สิ่งแรกที่ทุก ๆ คนทำก็คือ การหาวิธีและแนวทางการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะว่ากันด้วยเรื่องของการผ่าตัด การฉายแสง และการทำเคมีบำบัด

แต่เดี๋ยวนี้ยังมีการรักษาและฟื้นฟูโรคมะเร็งอีกแบบหนึ่ง ที่ทุกคนให้ความสนใจ และหันมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษามากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาแบบนี้เราเรียกกันว่า “การแพทย์แบบบูรณาการ”

ซึ่งการรักษาด้วยแนวทางนี้ จะฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและยืดอายุผู้ป่วยไปได้อีกยืนยาว ซึ่งเราผสมผสานวิธีการรักษาทั้งการใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับเซลล์มะเร็ง นวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย ธรรมชาติบำบัดควบคู่กับการรักษาหลัก เพื่อให้การรักษาครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

6 มิติ การบำบัดมะเร็งแบบบูรณาการ

เมื่อกล่าวถึง การรักษามะเร็ง หลายคนอาจจะนึกถึงเพียง การผ่าตัด การทำเคมีบำบัด หรือการฉายแสง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในการที่เราจะต้องดูแลหรือรักษาผู้ป่วยมะเร็งนั้น การใช้เทคนิคหลักเพียง 3 อย่างนี้ อาจจะไม่เพียงพอ การแพทย์บูรณาการจึงเข้ามามีบทบาท เพื่อที่จะมาเติมเต็มการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ยกตัวอย่างเช่น การกำจัดสารพิษ อันเนื่องมาจาก การสะสมของสารพิษในร่างกาย รวมไปถึงการใช้สารอาหาร สารสกัดจากพืช สมุนไพร หรือวิตามิน ที่จะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับยีนส์บางยีนส์ที่บกพร่องอยู่ให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะยีนส์สำหรับการกำจัดสารพิษ แม้กระทั่ง การส่งเสริมประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งในการรักษาโรคมะเร็งเลยทีเดียว เพราะเม็ดเลือดขาวหรือภูมิคุ้มกัน เป็นเสมือนกุญแจด่านสำคัญที่จะคอยกำจัดเซลล์แปลกปลอม กำจัดเซลล์มะเร็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งที่รักษาไปแล้วนั้นกลับมาเป็นใหม่ได้อีก 

เราไม่ได้รักษาแค่ร่างกาย แต่เราจะเจาะลึกถึงการรักษาจิตใจ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมจิตใจของผู้ป่วยให้มีกำลังใจสู่กับโรค เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี และเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตจากมะเร็งได้

การรักษามะเร็งแบบบูรณาการ จะเป็นการผสมผสานวิธีการรักษาทั้งการใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับเซลล์มะเร็ง นวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย ธรรมชาติบำบัดที่สามารถทำควบคู่กับการรักษาหลักได้ เพื่อให้การรักษาครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่

1. ล้างสารพิษบำบัด 

การล้างพิษนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการบำรุงซ่อมแซมร่างกายผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งก่อน ระหว่างและหลังจากการรักษามะเร็ง เพราะสารพิษที่สะสมในร่างกายจำนวนมาก คือต้นตอหลักของการเกิดมะเร็งนั่นเอง โดยเฉพาะผู้ป่วยบางรายที่เคยรับเคมีบำบัดและการฉายรังสีมาก่อน จะรู้สึกว่าร่างกายมีสารพิษเยอะ และร่างกายต้องการกำจัดสารพิษออกไป

สารพิษจะสร้างความเสียหายต่อเซลล์ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย กระบวนการนี้จะส่งผลให้มีการปล่อยสารการอักเสบในร่างกายออกมาเป็นอย่างมากเพื่อให้ร่างกายกำจัดเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายเหล่านี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดตามข้อ กล้ามเนื้อ ปวดหัว อ่อนเพลีย ท้องอืด อารมณ์แปรปรวนได้ อาการเหล่านี้เรียกว่าเป็นอาการที่บอกถึงสารพิษที่อยู่ในร่างกาย อาการจะค่อยๆบรรเทาลงเมื่อเวลาผ่านไป 

ในขณะที่การกำจัดสารพิษ จะช่วยเสริมและกระตุ้นให้กระบวนการกำจัดสารพิษออกมาจากร่างกายได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. ภูมิคุ้มกันบำบัด

ภูมิคุ้มกันบำบัด มีความสำคัญอย่างมากในการรักษามะเร็ง เนื่องจากการเผชิญกับความเครียด แรงกดดันจากสภาวะแวดล้อมของเซลล์ที่ไม่เหมาะสมจนทำให้รหัสพันธุกรรมเกิดการผิดเพี้ยน จึงเกิดการเปิดยีนมะเร็ง เมตาบอลิซึมเปลี่ยนไป และเกิดการกลายพันธุ์จนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง

โดยปกติร่างกายของคนเรามีกลไกของเม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิต้านตรวจสอบเซลล์ที่มีการแบ่งตัวผิดปกติ อย่างเซลล์มะเร็ง เมื่อตรวจพบจะทำลาย แต่ถ้าระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ย่อมทำลายเซลล์มะเร็งไม่ได้ หรือระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง แต่ตรวจไม่พบเซลล์มะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งจะมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเซลล์มะเร็ง เพื่อหลบหลีกไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตรวจสอบหรือทำลายเซลล์มะเร็งได้ หรือเซลล์มะเร็งมีการส่งข้อมูลไปยังสเต็มเซลล์ในไขกระดูกของคนเรา จึงทำให้เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันที่ผลิตขึ้นมาเป็นเซลล์ประเภทออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน จึงไปยับยั้งการทำงานในการผลิตระบบภูมิคุ้มกันประเภทต่าง ๆ อาทิ เอ็นเคเซลล์ (Natural Killer Cell) ไซโตท็อกซิกทีเซลล์ (Cytotoxic T cell) ทีเฮลเปอร์เซลล์ (T helper cell) ซึ่งเหล่านี้เรียกว่า ภาวะการหลบหลีกของเซลล์มะเร็งจากระบบภูมิคุ้มกัน (Cancer Immune Surveillance)

ภูมิคุ้มกันบำบัด คือกลไกที่ช่วยแก้ปัญหาจากภาวะเซลล์มะเร็งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ รวมถึงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย เช่น การอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ มีสารพิษในร่างกาย มีการติดเชื้อแอบแฝง ทำให้ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง และจากกรณีที่เซลล์มะเร็งมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะโครงสร้างเพื่อหนีการตรวจจับ จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความผิดพลาด และด้วยประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้เซลล์มะเร็งมีการเจริญเติบโต เพิ่มจำนวน และแพร่กระจายจนเป็นมะเร็ง

เพราะฉะนั้น ภูมิคุ้มกันบำบัดจึงเป็นกลไกที่เข้ามาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถกลับมาทำงานเพื่อตรวจสอบเซลล์ที่ผิดปกติได้ และสามารถเพิ่มจำนวนของระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมสามารถสร้างสารภูมิคุ้มกันเพื่อใช้ในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนขั้วการทำงานของมะเร็งให้เป็นลักษณะที่เราสามารถต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้

3. การบำบัดที่ออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงทำลายเซลล์มะเร็งแบบไม่เป็นพิษ

คือการรักษาอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะมีการเลือกการนำสารต่างๆ ที่สกัดจากธรรมชาติ รวมถึงการใช้ความร้อน แสง พลังงานบำบัด ซึ่งมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็ง มาร่วมรักษากับแพทย์แขนงหลัก เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดในการรักษา

การบำบัดด้วยวิธีนี้นับเป็น การรักษาที่ตอบโจทย์และมั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลข้างเคียง ที่เป็นอันตรายต่อเซลล์อื่นๆในร่างกายของผู้ป่วยที่ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีทั่วไป

4. โภชนบำบัด

อาหารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แนวทางการรักษาที่อคีซีส ไลฟ์ เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่อง อาหาร เป็นอย่างมาก ผู้ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องปรับปรับการทานอาหารใหม่ โดยหลีกเลี่ยง อาหารที่มีความหวานสูง อาหารแปรรูป แป้งขัดสี ไขมันอิ่มตัว และโปรตีนที่มาจากเนื้อสัตว์ เน้นการทานอาหารที่มาจากพืช ผัก และผลไม้ โดยเรามีเชฟที่มีประสบการณ์ในการดูแลอาหารผู้ป่วยมะเร็งโดยเฉพาะ ที่จะคอยแนะนำเมนูอาหารให้ มีกิจกรรมสอนทำอาหาร ที่ช่วยสอนวิธีทำอาหารเมนูง่ายๆ ทานกันในครอบครัว เพราะสมาชิกในครอบครัวมีบทบาทในการช่วยปรับเปลี่ยนการทานอาหารของผู้ป่วยมะเร็งด้วยเช่นกัน ต้องเป็นกำลังใจให้กัน ทานเป็นเพื่อนกัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้คุ้นเคยกับอาหาร และทานได้เป็นประจำ ซึ่งนี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยเสริมการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

5. การปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต 

ทุกๆ คนคงเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าปัจจัยก่อมะเร็งที่สำคัญ นอกจากปัจจัยภายในที่มาจากพันธุกรรมแล้ว พฤติกรรมการดำเนินชีวิตเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดมะเร็ง การที่จะมีสุขภาพที่ดีได้นั้น ก็ต้องมาจากการที่มีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ดีเช่นกัน โดยทาง อคีซีส ไลฟ์ จะเน้นให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมด 6 รายการ ดังนี้ เพื่อการรักษามะเร็งที่มีผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น รวมถึงการป้องมะเร็งไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกอย่างยั่งยืน

  • เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • ควบคุมความเครียด
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • เข้ารับการบำบัดการสนับสนุนทางอารมณ์และเหตุผล
  • หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ

6. การปรับสมดุลอารมณ์ และจิตใจ

ผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับการรักษาที่ อคีซีส ไลฟ์ จะมีทีมแพทย์เป็นเหมือนที่ปรึกษาส่วนตัว ช่วยออกแบบโปรแกรมการรักษาแบบเฉพาะบุคคลให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้การรักษานั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญคือ เราไม่ได้ดูแลเพียงแค่สุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังดูแลในเรื่องสุขภาพจิตใจของผู้ป่วยมะเร็งด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดูแลไปพร้อมกัน ทั้งตัวผู้ป่วยเองและญาติ จะต้องมีกำลังใจที่ดี พร้อมยืนหยัดต่อสู้ไปด้วยกัน

อคีซีส ไลฟ์ จึงมีวิธีการบำบัดสุขภาพจิตด้วยวิธีการทำสมาธิ ที่ฝึกโดยทีมงานผู้มีประสบการณ์ การช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย ปรับทัศนคติ เสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยมีพลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

บทความแนะนำ

วิดีโอแนะนำ