ไฟโตนิวเทรียน หรือสารพฤกษเคมี

(Phytonutrients)

คือการรักษาอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะมีการเลือกการนำสารต่างๆที่สกัดจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบเฉพาะในพืช สารกลุ่มนี้อาจเป็นสารที่ทำให้พืชผักชนิดนั้นๆ มีสี กลิ่นหรือรสชาติที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว  มาร่วมรักษากับแพทย์แขนงหลัก เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดในการรักษา

สารพฤกษเคมีบำบัดกับประโยชน์ต่อสุขภาพทั่วไป

  • ต้านอนุมูลอิสระ
  • เสริมภูมิคุ้มกัน
  • ลดการอักเสบ

การใช้สารพฤกษเคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็ง อาจจะแตกต่างกับการทานอาหารเสริม วิตามินในบุคคลทั่วๆไป ซึ่งแพทย์จะต้องมีการประเมินว่าภูมิคุ้มกันผู้ป่วยในตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทำเคมีบำบัด รังสีบำบัดอยู่หรือไม่

สารพฤกษเคมีช่วยผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างไรบ้าง

ตามธรรมชาติของผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด การใช้สารพฤกษเคมีบำบัดเหล่านี้ก็จะมาเติมเต็มมาทดแทน การรับประทานอาหารหลักที่ไม่สามารถทานได้เพียงพอ อีกทั้งสารอาหารบำบัดหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสาร Curcumin ที่มีอยู่ในขมิ้น สาร EGCG ที่อยู่ในชาเขียว จากการวิจัยพบว่าเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งด้วย ทั้งการใช้สารอาหารบำบัดที่เพียงพอยังทำให้โภชนาการและภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น และยังทำให้สามารถทนต่อการรักษาได้อย่างดีเยี่ยม

การใช้สารพฤกษเคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็งมีความแตกต่างหรือพิเศษอย่างไร

การใช้สารพฤกษเคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็ง อาจจะแตกต่างกับการทานอาหารเสริม วิตามินในบุคคลทั่วๆไป ซึ่งแพทย์จะต้องมีการประเมินว่าภูมิคุ้มกันผู้ป่วยในตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทำเคมีบำบัด รังสีบำบัดอยู่หรือไม่ เพราะสารสารพฤกษเคมีหลายๆตัว อาจจะเกิดผลเสียในการไปยับยั้งการออกฤทธิ์ของเคมี ดังนั้นผู้ป่วยควรจะแจ้งข้อมูลการรักษากับแพทย์ให้ครบถ้วน เพื่อแพทย์จะได้เลือกสารพฤกษเคมีที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ป่วยในเวลานั้นๆ

เรื่องที่ต้องรู้เมื่อต้องดูแลตนเองด้วยสารพฤกษเคมีบำบัด

ในการใช้สารพฤกษเคมีบำบัดจะดีกว่าการใช้ยาต่างๆเยอะ โดยเฉพาะในส่วนของผลข้างเคียงที่อาจจะเจอได้ แต่น้อยมากๆ โดยจากประสบการณ์ที่ใช้สารพฤกษเคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็งยังไม่เคยเจอผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆเมื่อเทียบกับการใช้ยา