การรักษามะเร็งตามแบบแพทย์แผนปัจจุบัน อาทิเช่น การผ่าตัด การใช้เคมีบำบัด รังสีบำบัด ยามุ่งเป้า รูปแบบของการเลือกบริหารการรักษาแต่ละรายการ จะขึ้นกับ ชนิดของมะเร็ง ระยะการดำเนินของโรค ที่มีการรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาวิจัยทางคลินิกมากมาย จนออกมาเป็น แนวทางในเวชปฏิบัติ หรือ clinical practice guideline ที่มาพร้อมกับชุดข้อมูลทางสถิติในแง่โอกาสในการตอบสนอง ที่นำไปสู่การพยากรณ์โรค และทำนายโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ไข้ รวมถึงผลข้างเคียงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น

หนึ่งในธรรมชาติที่เป็น ความน่ากลัวของโรคมะเร็ง คือ จากข้อมูลทางสถิติ มะเร็งเกือบทุกชนิดในระยะเริ่มต้น จะมีการตอบสนองต่อการรักษาที่ดี และมีโอกาสในรอดชีวิตที่สูงกว่าโรคมะเร็งที่เข้าสู่ระยะลุกลาม หรือระยะแพร่กระจาย

โรคมะเร็งในระยะต้นมักไม่ค่อยแสดงอาการ ตรวจเจอค่อนข้างยากด้วยวิทยาการการแพทย์มาตรฐาน ในการแพทย์แผนปัจจุบัน ในขณะที่ถ้าผู้ป่วยกลุ่มนี้เริ่มมีอาการหรืออาการแสดงออกมาแล้วก็มักจะไม่ใช่มะเร็งในระยะเริ่มต้นซึ่งมีการพยากรณ์ของโรคที่ไม่ดี ด้วยเหตุนี้โรคมะเร็งที่เมื่อสู่ระยะที่มีอาการหรืออาการแสดง จึงมีอัตราการสูญเสียที่ค่อนข้างสูง และทำให้โรคมะเร็งจึงกลายเป็นหนึ่งในโรคที่สร้างความหวาดกลัวกับผู้คนเมื่อได้รับการวินิจฉัยและตรวจพบ

หนึ่งในธรรมชาติที่เป็น ความน่ากลัวของโรคมะเร็ง คือ จากข้อมูลทางสถิติ มะเร็งเกือบทุกชนิดในระยะเริ่มต้น จะมีการตอบสนองต่อการรักษาที่ดี และมีโอกาสในรอดชีวิตที่สูงกว่าโรคมะเร็งที่เข้าสู่ระยะลุกลาม หรือระยะแพร่กระจาย

โรคมะเร็งในระยะต้นมักไม่ค่อยแสดงอาการ ตรวจเจอค่อนข้างยากด้วยวิทยาการการแพทย์มาตรฐาน ในการแพทย์แผนปัจจุบัน ในขณะที่ถ้าผู้ป่วยกลุ่มนี้เริ่มมีอาการหรืออาการแสดงออกมาแล้วก็มักจะไม่ใช่มะเร็งในระยะเริ่มต้นซึ่งมีการพยากรณ์ของโรคที่ไม่ดี ด้วยเหตุนี้โรคมะเร็งที่เมื่อสู่ระยะที่มีอาการหรืออาการแสดง จึงมีอัตราการสูญเสียที่ค่อนข้างสูง และทำให้โรคมะเร็งจึงกลายเป็นหนึ่งในโรคที่สร้างความหวาดกลัวกับผู้คนเมื่อได้รับการวินิจฉัยและตรวจพบ

ทำไมการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือฉายแสง จึงไม่เพียงพอ?

การบำบัดรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดและฉายแสง จัดเป็นหนึ่งในการรักษาที่มีพลังในการทำลายล้างสูงสำหรับเซลล์มะเร็งในระยะที่กำลังอยู่ในช่วงของการแบ่งตัวเพิ่มจำนวน เนื่องจากยากลุ่มนี้มักถูกออกแบบมาให้มีผลต่อเอนไซม์ที่ใช้ในการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนที่กลไกต่าง ๆ ของเซลล์มะเร็ง แต่ว่าการให้เคมีบำบัดหรือการฉายแสงไม่ได้ออกแบบมาสำหรับไปทำลายต้นขั้วของมะเร็งที่เรียกว่า Cancer Stem Cell  จึงทำให้หลาย ๆ ครั้ง เมื่อเราใช้เคมีบำบัดหรือฉายแสงไปแล้ว  มะเร็งอาจจะยุบลงแต่ Cancer Stem Cell  ยังอยู่  และ Cancer Stem cell ที่ยังอยู่นั้น บางส่วนอาจหลุดรอดจากกลไกการทำลายของยาเคมีบำบัด และเกิดการเรียนรู้กับยา จนกลายเป็นภาวะมะเร็งดื้อยาตามมา และทำให้มะเร็งสามารถฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ได้อีก

ด้วยกลไกของเคมีบำบัดนี้เอง อาจสร้างผลกระทบสะท้อนกลับมายังเซลล์ปกติของเราด้วย ที่เกิดเป็นผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น การที่มีจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำลง  เซลล์เยื่อบุในช่องปากหลุดลอก เกิดแผล ผมร่วง ซึ่งเกิดเป็นภาพจำ และสร้างความกลัวให้กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาในหมวดนี้

ดังนั้น การรักษาด้วยการแพทย์แบบบูรณาการ นอกเหนือจากองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เราเข้าถึงได้ โดยการใช้ยาเคมีเข้าไปปิดสวิตช์กลไกต่าง ๆ ของมะเร็ง เพื่อให้มะเร็งโดนทำลายแล้ว  เราก็ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่จะเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือ รวมถึง Cancer Stem cell  ที่เป็นต้นขั้วของมะเร็ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยหรือช่วยให้ผู้ป่วยหายจากมะเร็งได้

การแพทย์บูรณาการเป็นสาขาการแพทย์ที่ใช้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบองค์รวมที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยใช้การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การปฏิบัติทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจากหลากหลายวัฒนธรรม รวมไปถึงนวัตกรรมต่าง ๆ จากการแพทย์แต่ละแขนงในการมุ่งเป้าไปยังกลไกการเกิดมะเร็งตามแนวความคิดแบบสมุทัยเวชศาสตร์หรือ Functional Medicine ควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งตามแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อหวังผลด้านการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต เพิ่มการตอบสนองต่อการรักษา ทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจยังตกค้างอยู่ ลดความเสี่ยงต่อการดื้อยาของมะเร็ง ลดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการรักษา รวมไปถึงคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยของเราโดยไม่ไปรบกวนผลการรักษาจากการแพทย์แขนงหลัก

ตัวอย่างของการใช้แนวทางสำหรับการแพทย์บูรณาการในผู้ป่วยมะเร็ง อาทิเช่น

  1. แนวทางของการแพทย์วิถีชีวิต : รูปแบบการรับประทานอาหาร ความเครียด กิจกรรมในชีวิตประจำวัน คุณภาพการนอนหลับ และการรับสัมผัสสารพิษต่าง ๆ รอบตัว ล้วนส่งผลต่อสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ ระบบภูมิต้านทาน สมดุลฮอร์โมน ตลอนจนถึงการควบคุมการแสดงออกของยีนที่อยู่ในร่างกาย ปัจจัยด้านวิถีชีวิตต่าง ๆ จึงจัดเป็นหนึ่งในสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยการใช้แพทย์วิถีชีวิต โดยทีมแพทย์ผู้ให้การรักษาจะทำหน้าที่เสมือนเป็น โค้ชด้านสุขภาพ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ตลอดจนการมี แนวทางการใช้ชีวิตด้านต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยมะเร็งในให้เหมาะสม และสอดคล้องไปกับระยะของการรักษาตามแบบแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งจากข้อมูลทางสถิติผู้ป่วยไข้ที่มีวิถีชีวิตที่ดี มักมีการตอบสนองต่อการรักษาที่ดีกว่า รวมถึงโอกาสในการรอดชีวิตที่ดีกว่า
  1. แนวทางของการใช้โภชนเภสัช / สมุนไพรบำบัด : ในปัจจุบันที่การศึกษาถึง การใช้สารอาหาร หรือกลุ่มสารพฤกษเคมี ในการร่วมรักษามะเร็งกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อหวังผลส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน มุ่งเป้าการออกฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็ง รวมไปถึงลดผลข้างเคียงแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการรักษาต่าง ๆ อาทิเช่น การใช้เห็ดทางแพทย์ในการส่งเสริมภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วย และลดผลข้างเคียงระหว่างการทำเคมีบำบัด  การใช้สารพฤกษเคมี Curcumin ในการช่วยลดการอักเสบในร่างกาย  การเสริมโปรตีนบำบัด ในขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะฟื้นตัวจากการผ่าตัด หรือเคมีบำบัด การใช้ Probiotic therapy เพื่อปรับสมดุลเชื้อจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร เป็นต้น
  1. แนวทางของภูมิต้านทานบำบัด ผ่านการใช้ยามุ่งเป้า เปปไทด์  การทำวัคซีนมะเร็ง ตลอดจน เรื่องราวของการใช้เซลล์บำบัด เพื่อหวังผลฟื้นสภาพความเสื่อมของระบบภูมิต้านทาน รวมไปถึงฝึกฝนให้ภูมิต้านทานของผู้ป่วยสามารถเรียนรู้กับมะเร็ง เพิ่มโอกาสในการกำจัดมะเร็งมากขึ้น โดยเฉพาะเสริมกับการรักษาแผนปัจจุบันเช่น ในแผนปัจจุบันใช้ภูมิต้านทานบำบัดด้วยยา (Check point inhibition ) แม้ว่าจะได้ผลดี แต่ก็ยังมีเปอร์เซ็นต์การได้ผลที่ไม่มากนัก พบว่าการเสริมรักษาด้วยภูมิต้านทานบำบัดชนิดเซลล์ เช่น NK Cell Therapy จะช่วยเอาชนะ ภาวะภูมิหยุดทำงานของโรคมะเร็ง ส่งผลให้ การตอบสนองการรักษาเพิ่มมากขึ้นชนิดก้าวกระโดด
  1. การรักษาเสริมด้วยกลไกทางเมตาบอลิค ( Metabolic Therapy for cancer ) อย่างย่อ ๆ คือ การขัดขวางกลไก การนำสารอาหารไปใช้โดยเซลล์มะเร็ง จะใช้ยาที่เป็นกลุ่มที่ไม่ใช่คีโม ( non chemo drug ) และเป็นกลุ่มยาวัตถุประสงค์ใหม่  ( Repurposing drug) เช่น การใช้ยาเบาหวานบางชนิด ยาไขมันบางชนิด ยาฆ่าพยาธิมาขัดขวางกลไกทางเมตาบอลิคของมะเร็งเป็นต้น
  1. แนวทางของศาสตร์การแพทย์ทางเลือกอื่น ๆ อาทิเช่น การใช้ออกซิเจนบำบัด โอโซนบำบัด ความร้อนบำบัด การกระตุ้นการไหลเวียนระบบน้ำเหลือง เพื่อปรับจุลชีวะแวดล้อมของมะเร็ง ลดโอกาสในการเติบโต ส่งเสริมการออกฤทธิ์ของยา และระบบภูมิต้านทานในการทำลายเซลล์มะเร็ง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การพิจารณาเลือกวิธีการบำบัดทางแพทย์ทางเลือกนี้ แพทย์ผู้รักษาจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์จากผู้ป่วยแต่ละราย ไปจนถึงถึงการพิจารณา กลไกความเป็นไปได้ในการดำเนินโรคของมะเร็ง ผ่านการตรวจวิเคราะห์จากการตรวจเลือด biomarker ต่างๆ เพื่อวางแผนในการเลือกยา หรือ เลือกการรักษาให้ตรงกับโรคที่มีอยู่เฉพาะบุคคล หรือ Personalized medicine
  1. Latte-Naor S, Mao JJ. Putting Integrative Oncology Into Practice: Concepts and Approaches. J Oncol Pract. 2019 Jan;15(1):7-14.
  2. O’Brien, K.; Ried, K.; Binjemain, T.; Sali, A. Integrative Approaches to the Treatment of Cancer. Cancers 2022, 14,
  3. Marino, P.; Mininni, M.; Deiana, G.; Marino, G.; Divella, R.; Bochicchio, I.; Giuliano, A.; Lapadula, S.; Lettini, A.R.; Sanseverino, F. Healthy Lifestyle and Cancer Risk: Modifiable Risk Factors to Prevent Cancer. Nutrients 2024, 16,
  4. Khan N, Afaq F, Mukhtar H. Lifestyle as risk factor for cancer: Evidence from human studies. Cancer Lett. 2010 Jul 28;293(2):133-43.
  5. Bian Z, Zhang R, Yuan S, Fan R, Wang L, Larsson SC, Theodoratou E, Zhu Y, Wu S, Ding Y, Li X. Healthy lifestyle and cancer survival: A multinational cohort study. Int J Cancer. 2024 May 15;154(10):1709-1718.
  6. Zoi V, Galani V, Lianos GD, Voulgaris S, Kyritsis AP, Alexiou GA. The Role of Curcumin in Cancer Treatment. Biomedicines. 2021 Aug 26;9(9):1086.
  7. Moon DO. Curcumin in Cancer and Inflammation: An In-Depth Exploration of Molecular Interactions, Therapeutic Potentials, and the Role in Disease Management. Int J Mol Sci. 2024 Mar 2;25(5):2911.
  8. Narayanan S, de Mores AR, Cohen L, Anwar MM, Lazar F, Hicklen R, Lopez G, Yang P, Bruera E. Medicinal Mushroom Supplements in Cancer: A Systematic Review of Clinical Studies. Curr Oncol Rep. 2023 Jun;25(6):569-587.
  9. Baeza-Noci J, Pinto-Bonilla R. Systemic Review: Ozone: A Potential New Chemotherapy. Int J Mol Sci. 2021 Oct 30;22(21):11796.
  10. Li Y, Pu R. Ozone Therapy for Breast Cancer: An Integrative Literature Review. Integr Cancer Ther. 2024 Jan-Dec;23:15347354241226667.
  11. Clavo B, Navarro M, Federico M, Borrelli E, Jorge IJ, Ribeiro I, Rodríguez-Melcon JI, Caramés MA, Santana-Rodríguez N, Rodríguez-Esparragón F. Long-Term Results with Adjuvant Ozone Therapy in the Management of Chronic Pelvic Pain Secondary to Cancer Treatment. Pain Med. 2021 Sep 8;22(9):2138-2141.
  12. Moen I, Stuhr LE. Hyperbaric oxygen therapy and cancer–a review. Target Oncol. 2012 Dec;7(4):233-42.
  13. Canarslan Demir K, Avci AU, Ozgok Kangal MK, Ceylan B, Abayli SY, Ozler I, Yilmaz KB. Hyperbaric Oxygen Therapy for Managing Cancer Treatment Complications: A Safety Evaluation. Medicina (Kaunas). 2025 Feb 22;61(3):385.
  14. Mink van der Molen DR, Batenburg MCT, Maarse W, van den Bongard DHJG, Doeksen A, de Lange MY, van der Pol CC, Evers DJ, Lansdorp CA, van der Laan J, van de Ven PM, van der Leij F, Verkooijen HM. Hyperbaric Oxygen Therapy and Late Local Toxic Effects in Patients With Irradiated Breast Cancer: A Randomized Clinical Trial. JAMA Oncol. 2024 Apr 1;10(4):464-474.
  15. Yi GY, Kim MJ, Kim HI, Park J, Baek SH. Hyperthermia Treatment as a Promising Anti-Cancer Strategy: Therapeutic Targets, Perspective Mechanisms and Synergistic Combinations in Experimental Approaches. Antioxidants (Basel). 2022 Mar 24;11(4):625.
  16. Palazzi M, Maluta S, Dall’Oglio S, Romano M. The role of hyperthermia in the battle against cancer. Tumori. 2010 Nov-Dec;96(6):902-10.
  17. Smadja DM. Hyperthermia for Targeting Cancer and Cancer Stem Cells: Insights from Novel Cellular and Clinical Approaches. Stem Cell Rev Rep. 2024 Aug;20(6):1532-1539.
  18. Hynynen K, Lulu BA. Hyperthermia in cancer treatment. Invest Radiol. 1990 Jul;25(7):824-34.
  19. Portale F, Di Mitri D. NK Cells in Cancer: Mechanisms of Dysfunction and Therapeutic Potential. Int J Mol Sci. 2023 May 30;24(11):9521.
  20. Park H, Kim G, Kim N, Ha S, Yim H. Efficacy and safety of natural killer cell therapy in patients with solid tumors: a systematic review and meta-analysis. Front Immunol. 2024 Oct 16;15:1454427.
  21. Page A, Chuvin N, Valladeau-Guilemond J, Depil S. Development of NK cell-based cancer immunotherapies through receptor engineering. Cell Mol Immunol. 2024 Apr;21(4):315-331.
  22. Du N, Guo F, Wang Y, Cui J. NK Cell Therapy: A Rising Star in Cancer Treatment. Cancers (Basel). 2021 Aug 17;13(16):4129.
  23. Wolf E, Milazzo S, Boehm K, Zwahlen M, Horneber M. Thymic peptides for treatment of cancer patients. Cochrane Database Syst Rev. 2011 Feb 16;2011(2):CD003993.
  24. Savino W, Lepletier A. Thymus-derived hormonal and cellular control of cancer. Front Endocrinol (Lausanne). 2023 Jul 17;14:1168186.
  25. Schulof RS. Thymic peptide hormones: basic properties and clinical applications in cancer. Crit Rev Oncol Hematol. 1985;3(4):309-76.
  26. Inui T, Kuchiike D, Kubo K, Mette M, Uto Y, Hori H, Sakamoto N. Clinical experience of integrative cancer immunotherapy with GcMAF. Anticancer Res. 2013 Jul;33(7):2917-9.
  27. Saburi E, Saburi A, Ghanei M. Promising role for Gc-MAF in cancer immunotherapy: from bench to bedside. Caspian J Intern Med. 2017 Fall;8(4):228-238.
  28. Pacini S, Morucci G, Punzi T, Gulisano M, Ruggiero M. Gc protein-derived macrophage-activating factor (GcMAF) stimulates cAMP formation in human mononuclear cells and inhibits angiogenesis in chick embryo chorionallantoic membrane assay. Cancer Immunol Immunother. 2011 Apr;60(4):479-85.
  29. Yamamoto N, Suyama H, Yamamoto N. Immunotherapy for Prostate Cancer with Gc Protein-Derived Macrophage-Activating Factor, GcMAF. Transl Oncol. 2008 Jul;1(2):65-72.
Share
Akesis Life - Integrative Oncology
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.