“รู้ไหม? แค่ขยับร่างกาย 4–5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งได้แล้ว”
การออกกำลังกายไม่ได้มีประโยชน์แค่เพื่อรูปร่างหรือสุขภาพหัวใจเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญในการป้องกันและเสริมการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง อีกด้วย
“ผู้ป่วยที่ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมระหว่างรับการรักษา มักมีแนวโน้มตอบสนองต่อการบำบัดได้ดีกว่า และยังลดผลข้างเคียงระหว่างทางได้อย่างมีนัยสำคัญ”
ทำไมร่างกายที่ขยับ จึงช่วยต้านมะเร็ง?
เมื่อร่างกายเคลื่อนไหว:
- กล้ามเนื้อทำงานช่วยขับของเสียและน้ำเหลืองเก่าที่คั่งค้าง
- หัวใจสูบฉีดเลือดดีไปเลี้ยงทั่วร่าง
- ปอดขยายรับออกซิเจนเพิ่มขึ้น
- ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
และที่สำคัญ…เมื่อนำกลไกต่าง ๆ เหล่านี้ไปศึกษาในระดับเซลล์แล้ว การออกกำลังกายส่งผลดีต่อการป้องกัน และรักษามะเร็งหลายด้าน ดังนี้
เสริมภูมิคุ้มกัน – กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ทำลายเซลล์เซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง – ลดอัตราการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และชักนำให้เซลล์ฝ่อ
- ยับยั้งการอักเสบเรื้อรัง – ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเร่งให้เซลล์มะเร็งลุกลาม
- รบกวนระบบพลังงานของเซลล์มะเร็ง – ทำให้เซลล์ไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่
- กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
- เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา – ทั้งยาเคมีบำบัด รังสี และภูมิคุ้มกันบำบัด
ยกตัวอย่างรูปแบบการออกกำลังกายที่ทุก ๆ คนสามารถปฏิบัติด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์หรูหรา เช่น
- เดินเร็วบนลู่ หรือพื้นที่ราบ พร้อมยกแขนขึ้น-ลงสลับจังหวะ
- หายใจเข้าออกลึก ๆ ให้ปอดขยายเต็มที่ อย่างน้อย 30 นาที
- ตามด้วย ท่ายันพื้น (Plank) ลุก-นั่ง (Squat) 5–10 นาที
แนะนำให้ทำทุกวัน หรืออย่างน้อย 4–5 วันต่อสัปดาห์
สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง : ออกกำลังกายได้ แต่ควรทำอย่างมีแบบแผน
งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่มีกิจกรรมทางกายระหว่างการรักษา จะมีผลตอบสนองดีกว่า และมีคุณภาพชีวิตดีกว่าผู้ที่ไม่ขยับร่างกายเลย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพร่างกายและระยะของโรคในแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน การออกกำลังกายจึงมีข้อแนะนำ ดังนี้
- ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
- ออกกำลังกายให้เหมาะกับสภาวะร่างกายและแผนการรักษา
- ปรับระดับตามช่วงของการบำบัด เช่น ก่อน ระหว่าง หรือหลังรักษา
การออกกำลังกายไม่ใช่แค่ “การขยับ” แต่เป็นการ “สร้างสภาวะที่ไม่เหมาะกับมะเร็งจะเติบโต”
มันคือการเสริมภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูร่างกาย และเปิดทางให้การรักษาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
“สุขภาพที่ดี เริ่มต้นจากก้าวแรกของคุณเอง”