โรคระบาดโควิด 19 ส่งผลกระทบกับชีวิตผู้คนทั่วโลกโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งไม่เพียงแค่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งแต่ยังต้องใช้ชีวิตระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ หากได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็อาจเกิดอาการรุนแรงได้ง่ายกว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันแข็งแรงดี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มาตรการควบคุมโรคระบาดอาจทำให้การรักษามะเร็งล่าช้าไปบ้างหรืออาจหยุดพักไปในบางราย ขณะนี้มาตรการคลายล็อคดาวน์เข้าสู่เฟสสองแล้ว การบำบัดโรคมะเร็งก็สามารถทำได้เต็มที่อีกครั้ง ดังนั้นผู้ป่วยจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับการรักษาเต็มที่
> สิ่งแรกที่ควรทำคือเข้าปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับแผนการรักษามะเร็ง ซึ่งอาจจะทำต่อเนื่องจากแผนเดิมหรืออาจจะต้องเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายและภาวะโรค ณ ปัจจุบัน มี 2-3 คำถามที่ควรสอบถามคุณหมอให้แน่ชัดให้ได้ข้อมูลแน่ชัด เช่น ผลข้างเคียงจากการบำบัด ระยะเวลาในการรักษา ถึงแม้ผู้ป่วยอาจเคยได้รับข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว แต่ข้อมูลที่อัพเดทที่สุดก็เป็นเรื่องจำเป็น อีกทั้งผู้ป่วยเองต้องมั่นใจว่าเห็นด้วยกับแผนการรักษาล่าสุดนี้ หากสงสัยหรือไม่แน่ใจก็ควรปรึกษาขอความเห็นจากหมอท่านอื่นๆเพิ่มเติม
> ผู้ป่วยที่หยุดการรักษาไปช่วงล็อคดาวน์ ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายใหม่เพื่ออัพเดทภาวะโรคก่อนจะเดินหน้ารักษาต่อไป
> ที่ผ่านมาพวกเราอาจผ่อนปรนเรื่องการรักษาสุขภาพกันไปบ้างในช่วงล็อคดาวน์ ขณะนี้ถึงเวลาที่ผู้ป่วยมะเร็งควรกลับเข้าสู่โหมดเข้มงวดอีกครั้ง อาทิเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับการรักษาและควรหาเวลาเข้าพบแพทย์นักโภชนาการเพื่อหาแผนโภชนาการที่เน้นการเสริมภูมิคุ้มกันให้กลับมาแข็งแรงอย่างรวดเร็ว
> ในบางรายที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรได้รับการ #บำบัดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กลับมาแข็งแรงขึ้นเพื่อที่จะควบคุมการอักเสบในร่างกาย ควบคุมตัวโรค ล้างพิษคีโมและรังสีตกค้างให้ทำร้ายเซลส์ดีน้อยที่สุด อีกทั้งภูมิแข็งแรงจะช่วยให้ร่างกายพร้อมรับมือกับเคมีหรือยาสลบจากการผ่าตัด ยาสลบจะหยุดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันชั่วคราวทำให้ภูมิคุ้มกัน ณ ขณะนั้นอ่อนแอมากที่สุด จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการกระจายตัวของโรคได้ง่าย
นอกจากนั้น ทีมแพทย์คลีนิคแพทย์มะเร็งบูรณาการ อคีซีสไลฟ์ แนะนำผู้ป่วยให้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ โค้ชไลฟ์สไตล์สุขภาพดี ตลอดจนเข้ารับการบำบัดเสริม เช่น จิตบำบัดลดความเครียด สร้างสมดุลย์ฮอร์โมน และการเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อฟื้นฟูร่างกายและป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ
Ref:
