หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินว่าการแปรงผิวแบบแห้งนั้นคืออะไร แล้วช่วยอะไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
การแปรงผิวแบบแห้งนั้น เป็นการแปรงผิวโดยขณะที่ผิวยังแห้ง ไม่มีการใช้น้ำ หรือน้ำมัน การแปรงผิววิธีนี้มีมาช้านานแล้ว โดยชาวสแกนดิเนเวียและรัสเซียมานานหลายศตวรรษ โดยแพทย์ชาวฟินแลนด์ชื่อ Paavo Airola
การแปรงผิวแบบแห้งช่วยกำจัดสารพิษที่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ผ่านทางรูขุมขน ซึ่งผิวหนังของเรานั้นถือว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายก็ว่าได้ ผิวหนังจะประกอบไปด้วยเส้นประสาทมากมายที่คอยส่งข้อมูลไปยังสมอง มีต่อมและชั้นของเซลล์ที่มีไว้เพื่อป้องกันจุลินทรีย์และเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
นอกจากนี้แล้วสารพิษ 1 ใน 3 ของร่างกายจะถูกขับผ่านออกมาทางผิวหนัง ดังนั้นผิวหนังถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่เราควรเอาใจใส่เป็นพิเศษทุกวัน
ประโยชน์ของการแปรงผิวแบบแห้ง
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนน้ำเหลือง ซึ่งมีหน้าที่กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยลดการสะสมของเซลล์ลูไลท์
- ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
- ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย
ขั้นตอนในการแปรงผิวแบบแห้ง
- เตรียมแปรงที่เป็นแปรงจากธรรมชาติ ไม่ใช้แปรงสังเคราะห์หรือสามารถใช้แปรงที่นุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป
- ห้ามอาบน้ำ หรือทำให้ตัวเปียกก่อนการแปรงผิว
- เริ่มแปรงผิวจากบริเวณเท้า ปัดแปรงขึ้นด้านบนเป็นทิศทางเดียวกัน ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆตามร่างกายโดยปัดแปรงไปในทิศทางเดียวกันตลอดคือปัดขึ้นด้านบน จะเป็นการปัดในลักษณะเหมือนการวนคล้ายวงกลม
- อาบน้ำ สามารถอาบน้ำเย็นเพื่อช่วยปิดรูขุมขน
- หลังจากอาบน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง แนะนำให้ประโลมผิวด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกให้ทั่วร่างกาย
- การแปรงผิวสามารถทำได้ทุกวันก่อนอาบน้ำ ใช้เวลาเพียง 5 นาที สามารถแปรงซ้ำจุดเดิมหรือจุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษได้