แสงเลเซอร์บำบัด
(Photodynamic therapy)เป็นการใช้เลเซอร์พลังงานต่ำแต่มีความสามารถในการรักษาเนื้อเยื่อผ่านผิวลงไป ไม่ทำให้ผิวไหม้ โดยการทำให้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อนั้น ๆ ถูกตอบสนองด้วยแสงอย่างมีประสิทธิภาพ โดย “การใส่สารเร่งปฏิกิริยาความไวของแสง (Photosensitizer) ” ซึ่งเทคนิคนี้มีการใช้แพร่หลายในการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อการทำลายเซลล์มะเร็ง เพราะเซลล์มะเร็งนั้นเมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดการรับแสงจะเกิดปฏิกิริยาซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อ (Apoptosis)
สำหรับการบำบัดรักษาในส่วนของโรคมะเร็งจะต้องใช้เลเซอร์ที่มีอัตรากำลังในการส่งที่ลึก ซึ่งแสงสีแดงและอินฟราเรด คือ พลังแสงสีที่สามารถลงไปได้ลึกกว่าแสงสีอื่น ๆ จึงต้องใส่ Choline-B 6 สารเร่งปฏิกิริยาของแสงที่เหมาะกับการทำงานของแสงสีแดง และ ICG สารเร่งปฏิกิริยาความไวของแสงที่เหมาะกับการทำงานของอินฟราเรด
วิธีและกลไกการทำงานของสารเร่งปฏิกริยาความไวของแสง
เมื่อมีการใส่สารเร่งปฏิกิริยาความไวของแสงเข้าสู่ร่างกาย และมีการสัมผัสกับแสงจะส่งผลให้เซลล์มีความไวในการรับแสง 2-3 เท่า สารเร่งปฏิกิริยาความไวของแสงในปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะยกตัวอย่างสิ่งที่เราต่างรู้จักหรือเคยใช้กันมาบ้าง แต่อาจยังไม่ทราบว่าสิ่งนั้น คือ ตัวเร่งปฏิกิริยาความไวของแสง เช่น
- คลอโรฟิลล์ ช่วยให้การทำงานของแสงสีแดงดีขึ้น เมื่อดื่มเข้าไปคลอโรฟิลล์นี้จะไปอยู่ในเลือด พอเราใช้เลเซอร์พลังงานต่ำที่เป็นแสงสีแดง จะส่งผลให้การทำงานของแสงสีแดงมีประสิทธิภาพขึ้น เนื่องจากคลอโรฟิลล์ คือ สารเร่งปฏิกิริยาของแสงสีแดงนั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อต้องการให้แสงสีแดงช่วยในการลดปวด หรือสร้างความตื่นตัวของร่างกาย สามารถดื่มคลอโรฟิลล์ และรับการรักษาด้วยเลเซอร์โดยใช้แสงสีแดง หรือนาฬิกาเลเซอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน
- เคอคูมิน เป็นสารชนิดหนึ่งในขมิ้นที่จะช่วยให้การทำงานของแสงสีน้ำเงินดีขึ้นในด้านการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ ดังนั้นเมื่อทานเคอคูมินแล้วใช้แสงสีน้ำเงินในการรักษาจะช่วยให้สามารถฆ่าเชื้อในเลือดได้ดีขึ้น เช่น กรณีป่วยเป็นไข้หวัด ภูมิต้านในร่างกายไม่ดี เป็นต้น
- สารสกัดจากสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s Wort Extract) ช่วยให้การทำงานของแสงสีเหลืองดีขึ้น เมื่อทานสารสกัดจากสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ตและใช้เลเซอร์พลังงานต่ำที่เป็นแสงสีเหลืองในการรักษาจะช่วยให้แสงสีเหลืองทำงานดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านการรักษาโรคซึมเศร้า
- สำหรับการบำบัดรักษาในส่วนของโรคมะเร็งจะต้องใช้เลเซอร์ที่มีอัตรากำลังในการส่งที่ลึก ซึ่งแสงสีแดงและอินฟราเรด คือ พลังแสงสีที่สามารถลงไปได้ลึกกว่าแสงสีอื่น ๆ จึงต้องใส่ Choline-B 6 สารเร่งปฏิกิริยาของแสงที่เหมาะกับการทำงานของแสงสีแดง และ ICG สารเร่งปฏิกิริยาความไวของแสงที่เหมาะกับการทำงานของอินฟราเรด ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิด เป็นสารเร่งปฏิกริยาความไวของแสง ซึ่งในทางการแพทย์แผนปัจจุบันมีการใช้เพื่อการตรวจวินิจฉัย และเป็นสารที่ไม่มีพิษ ไม่มีผลเสียกับร่างกาย โดยใช้หลักการกระตุ้นด้วยสารเร่งปฏิกิริยาความไวต่อแสง ซึ่งมีความไวพิเศษกับเซลล์ที่เป็นมะเร็ง เซลล์ที่มีการกลายพันธุ์ เมื่อฉีดเข้าสู่กระแสเลือด เซลล์มะเร็ง เซลล์ที่มีการกลายพันธุ์ เนื้อเยื้อที่เป็นเนื้องอกจะถูกย้อมด้วยสารนี้ และหลังจากนั้นจึงทำการรักษาโดยใช้เลเซอร์ในจุดนั้น ๆ เซลล์มะเร็งจะถูกทำลาย โดยที่เซลล์ปกติไม่มีผลกระทบใดๆ เทคนิคนี้จึงเป็นการรักษามะเร็งแบบไม่เป็นพิษ และพุ่งเป้าทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งเท่านั้น สารเร่งปฏิกริยาความไวของแสง (Photosensitizer) นอกจากจะมีประโยชน์ในตัวเองแล้ว ในมุมของการรักษาด้วยเลซอร์นับว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากอีกด้วย